โตชิบาแคเรียร์ทุ่มงบ2,000ล. ผุดโรงงานใหม่

วันอังคารที่ 22 พฤษภาคม 2012 เวลา 08:01 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การตลาด Marketing - ตลาด

ส่วนบนของฟอร์ม

User Rating: / 1
แย่ดีที่สุด

ส่วนล่างของฟอร์ม

โตชิบา แคเรียร์ ประกาศความมั่นใจ ลงทุนต่อในไทย ทุ่มงบอีกกว่า 2,000 ล้าน สร้างโรงงานผลิตแอร์เชิงพาณิชย์ และแอร์วีอาร์เอฟ สำหรับห้างสรรพสินค้า ส่งออกต่างประเทศ เผยหลังโครงการแล้วเสร็จ ก.พ.56 ไทยจะเป็นฐานผลิตใหญ่สุดของโตชิบา
นายอากิโกะ โอซากิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โตชิบา แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไทยยังเป็นฐานผลิตสำคัญของโตชิบา บริษัทยังมั่นใจในการลงทุน เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะในการเป็นฐานผลิต และกระจายสินค้าไปสู่ประเทศต่างๆ และเพื่อตอกย้ำความมั่นใจ โตชิบา ยังเดินแผนการลงทุนโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศโรงงานที่ 2 มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งเริ่มเดินแผนการก่อสร้างพฤษภาคม 2555 และจะแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 โดยโรงงานแห่งใหม่ จะทำให้กำลังการผลิตของโตชิบาเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว ภายใน 3 ปี และจะทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดของโตชิบาทั่วโลก
 "ขณะนี้โตชิบา มีโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ ไทย จีน และญี่ปุ่น ส่วนโรงงานที่อังกฤษ เป็นโรงงานที่ลงทุนร่วมกับบริษัทในอังกฤษ และเป็น sale office เพียงอย่างเดียว ขณะที่ในไทย จีน และญี่ปุ่น โดยขณะนี้ โรงงานที่ไทยถือเป็นโรงงานที่มีกำลังผลิตเป็นอันดับ 2 ของโตชิบา" นายโอซากิกล่าวและว่าโรงงานใหม่จะผลิตเครื่องปรับอากาศพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศระบบวีอาร์เอฟ ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศสำหรับโรงงานและห้างสรรพสินค้า โดยระบบวีอาร์เอฟนี้ สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 50 % เมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศทั่วไป และสำหรับโรงงานใหม่ จะรับพนักงานเพิ่มอีกประมาณ 300 คน
สำหรับกำลังการผลิตในไทยทั้งหมดประมาณ 95% จะเป็นการผลิตเพื่อส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศ 55 ประเทศ ส่วนตลาดในประเทศไทย ถือเป็นตลาดเล็ก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ดังนั้น กำลังการผลิตส่วนใหญ่ จึงเป็นการผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก ส่วนโรงงานเดิมที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2532 เป็นโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศเพื่อใช้ในบ้านเป็นหลัก
ส่วนเรื่องการปรับราคา ซึ่งขณะนี้มีกระแสในตลาดค่อนข้างมาก ทางโตชิบายืนยันว่า เครื่องปรับอากาศของโตชิบา ยังไม่มีแผนการปรับราคา และพยายามจะเพิ่มศักยภาพในการผลิต เพื่อทำราคาสินค้าให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนี้บริษัทยังผลิตเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ประเทศไทยฯ และประธานกรรมการบริหาร สวนอุตสาหกรรมบางกะดี กล่าวว่า การสร้างเขื่อนป้องกันน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วประมาณ 35% และโครงการก่อสร้างยังดำเนินไปตามแผน โดยเฟสแรกจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ ด้วยระดับความสูงของเขื่อน +5 NSL และโครงการเฟส 2 ซึ่งจะแล้วเสร็จกุมภาพันธ์ปีหน้า ด้วยความสูงที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 เมตรด้วยรูปแบบเขื่อนดับเบิลวอลล์ พร้อมกับการทำเซอร์วิสโรด ที่สามารถใช้งาน เพื่อการขนส่งสินค้าได้ หากเกิดภาวะน้ำท่วมอีกครั้ง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,742 24-26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555